โรงแรมไทยใหม่ 3 แห่งประกาศเปิดตัว

Movenpick Hotels & Resorts ซึ่งเป็นบริษัทจัดการโรงแรมของสวิสกําลังหันมาให้ความสนใจกับเอเชียรวมถึงประเทศไทยมากขึ้นโดยมีแผนที่จะทําสัญญาการจัดการใหม่อย่างน้อย 10 สัญญาในทวีปในปีหน้า

ปัจจุบันเครือโรงแรมมีที่พัก 3 แห่ง มีห้องพัก 766 ห้องในเอเชีย หนึ่งในนั้นอยู่ในประเทศไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ลงนามในสัญญาเพื่อจัดการโรงแรมใหม่แปดแห่งที่มีห้องพัก 2,142 ห้อง – สามแห่งในประเทศไทยสองแห่งในเวียดนามและอีกหนึ่งแห่งในมาเลเซียสิงคโปร์และอินเดีย Andreas Mattmuller ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของตะวันออกกลางและเอเชียกล่าวว่าแบรนด์นี้มีลักษณะคล้ายกับโรงแรมระดับห้าดาวที่มีการออกแบบที่ทันสมัยและสิ่งอํานวยความสะดวกที่หรูหรา แต่เสนอราคาที่ไม่แพง การวางตําแหน่งที่ชัดเจนและภาษีที่สมจริงทําให้ Movenpick ประสบความสําเร็จในการรุกของตะวันออกกลางและยุโรป

ความสําเร็จของโรงแรมไทยแห่งแรกคือ Movenpick Resort & Spa Karon Beach Phuket ซึ่งเปิดให้บริการในปี 2549 ได้ปูทางไปสู่สัญญาการจัดการใหม่สามฉบับ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท ได้ร่วมมือกับครอบครัวจิตรศิลป์เพื่อดําเนินงานโรงแรมโมเวนพิคสุริวงศ์เชียงใหม่, โมเวนพิครีสอร์ทแอนด์สปาหาดแม่น้ําสมุยและโรงแรมโมเวนพิคแอนด์เรสซิเดนซ์กรุงเทพ

นายจูมเรี่ยน จิตรศิลป์ ประธานโรงแรมทวินทาวเวอร์ กรุงเทพ และครอบครัวเป็นเจ้าของโรงแรม 3 แห่ง กล่าวว่า ได้จัดสรรเงินจํานวน 4,000 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโรงแรม เงินหนึ่งพันล้านจะถูกใช้เพื่อปรับปรุงโรงแรมโมเวนพิคสุริวงศ์เชียงใหม่หลังจากนั้นราคาห้องพักจะเพิ่มขึ้น 40-50% เป็นระหว่าง 2,000 ถึง 2,500 บาทต่อห้องต่อคืน

อีกพันล้านบาทจะใช้ในการสร้าง 81 พูลวิลล่า Movenpick Resort & Spa หาดแม่น้ํา Koh Samui ซึ่งจะเปิดให้บริการในปีหน้า ในขณะที่อีก 2 พันล้านจะใช้ในการพัฒนาห้องพัก 266 ห้องและที่อยู่อาศัย 100 ยูนิตที่ Movenpick Hotel & Residences Bangkok

นอกจากที่พัก 3 แห่งแล้ว ครอบครัวจิตรศิลป์ยังเป็นเจ้าของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท พีพี และโรงแรมสตาร์ เชียงใหม่ รวมถึงโรงแรมทวินทาวเวอร์ กรุงเทพฯ

“การท่องเที่ยวไทยยังคงมีศักยภาพในการเติบโตแม้ว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้นในอนาคต จํานวนโรงแรมทั้งแบรนด์ต่างประเทศและท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก” Mr Mattmuller กล่าว

เขากล่าวว่าการแข่งขันที่รุนแรงจะทําให้เจ้าของโรงแรมจํานวนมากอยู่รอดได้ยากและบางคนอาจเลิกกิจการโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาวะล้นตลาดที่เกิดขึ้นในบางสถานที่

อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจากตลาดเกิดใหม่เช่นอินเดียและจีน

บริษัท ดําเนินการโรงแรม 70 แห่งที่มีห้องพัก 17,582 ห้องทั่วโลก – 27 แห่งในยุโรป 23 แห่งในตะวันออกกลางและ 17 แห่งในแอฟริกานอกเหนือจากสามแห่งในเอเชีย